ดีเกินไป ไม่ดี
ดีเกินไป ‘สิงโตคำราม’ จัดเป็นทีมที่เล่นได้สุภาพมาก ก่อนค.ศ. 2020 นักเตะไม่โดนไล่ออกจากสนามมานานกว่า 6 ปี กระทั่งฟุตบอลนานาชาติเตะได้อีกครั้งหลังโคโรน่าไวรัสระบาดควบคุมได้ ปรากฏว่าเดือนก่อน ไคล์ วอล์คเกอร์ ถูกอัปเปหิ
แล้วมา 14 ต.ค.เกิดหน้าประวัติศาสตร์โบว์ดำใหม่เมื่อนักเตะทีมชาติอังกฤษถูกไล่ออกพร้อมกัน 2 คนในเกมเดีย นั่นคือเซนเตอร์แบ็ก แม็คไกวร์ เสียบไม่ดูตาม้าตาเรือ สองหนถูกเหลือง-แดงไปอาบน้ำก่อนใครนาที 32 แถมหลังสิ้นเสียงนกหวีด เจมส์ เดินไปด่าเปา เฆซุส คิล มานซาโน่ จึงโดนใบแดงอีกราย
ประเด็นเรื่องวินัยบนสนามนี่เองที่ เซาธ์เกต หยิบเอามาเตือนสติทุกคนว่าเรียนรู้จากเหตุการณ์วานนี้อย่าให้มีในทัวร์นาเมนต์เพราะหมายถึงเจ๊งทั้งองคาพยพ
“แน่นอนมันต้องเอาไปขบคิดต่อเมื่อเหตุการณ์บนสนามที่เกิดขึ้นไม่ถูกไม่ควร ไว้เราจะแจ้งบอกกับพวกเขา” เจ้านายใหญ่ ‘สิงโตคำราม’ เปิดปาก
“คำถามเรื่องระเบียบวินัยจะโดนป้อนไปยังนักเตะเพราะหากยังหย่อนยานเท่ากับสร้างงานให้ตัวเองบนสนาม เราต้องเอาเกมที่ผ่านมาเป็นบทเรียน เพราะจากประวัติศาสตร์ตลอดมาหากเตะระดับทัวร์นาเมนต์ด้วยผู้เล่น 10 คน ยังไงคุณก็ไม่รอด”
พร้อมกันนั้น แกเร็ธ ยังแจงเป็นรายบุคคลที่โดนไล่ออกเริ่มจาก แม็คไกวร์ ว่าคงต้องให้โอกาสต่อไปเพราะนักเตะจิตใจว้าวุ่นแบบเขา แก้ให้หายด้วยการหาฟอร์มเก่งบนสนามเท่านั้น
“สำหรับ แฮร์รี่ วิธีจัดการเขาเท่าที่ผมทราบคือเจ้าตัวต้องการเล่นฟุตบอล สถานที่ดีสุดสำหรับเจ้าตัวคือสนามแข่ง”
“เราทราบว่าหมอนั่นไม่มีความสุขเท่าไหร่ต่อความเห็นที่ต่างคนบอกต้องวางตัวอย่างนั้น อย่างนี้ ก็เป็นรูปแบบชีวิตของแข้งหัวกะทิ เพราะหากไม่มีคนมาจุ้นจ้านชีวิตคุณ อะไรๆก็คงง่ายกว่านี้”
“แต่เมื่อคุณคือกัปตันสโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด และนักเตะหัวแถวทีมชาติอังกฤษ มันเลี่ยงโดนวิจารณ์ลำบาก เอาจริงๆต้องอยู่กับมันให้ได้ แล้วผมเชื่อว่าหมอนั่นแกร่งพอรับมือ เขาเป็นลูกผู้ชายยืดได้-หดได้ ผมเชื่อว่า แม็คไกวร์ จะผ่านช่วงเวลาแบบนี้”
“ทีมชาติเราและสโมสรต่างหนุนหลังไม่ต่างกัน แต่ช่วงนี้อะไรๆก็ไม่เป็นใจ พูดตามตรงไม่มีใครอยากไปอยู่กลางมรสุมแบบนั้นหรอก”